จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

มาเตรียมสอบ long case short case กันเถอะ


เริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง
การแบ่งสัดส่วนคะแนนภาคปฏิบัติ
กลางปี (35%)   - long case          2 cases     20%
                      - OSCE shortcase 3 cases     9%
                      - OSCE lab          6 stations  6%
ปลายปี (65%)  -  long case          2 cases     30%
                      - OSCE shortcase 3 cases      18%
                      - OSCE lab          6 stations  12%
                      - งานวิจัย (5%)
เทศกาลสอบ Short Case - Long Case ใกล้เข้ามาแล้ว ปลายปีนี้สอบ 8 มิถุนายน 2555
การเตรียมตัว long case 
ซักประวัคิและตรวจร่างกายผู้ป่วยจำนวน 2 ราย ใช้เวลาสอบรายละ 70 นาที โดยแบ่งเป็นการซักประวัติและตรวจร่างกาย 30 นาที การนำเสนอ อภิปราย และตอบคำถาม 40 นาที
1. 1 เดือนก่อนสอบ ให้หัดซักประวัติ ตรวจร่างกาย (ห้ามลืม นอนกรน OSA เด็ดขาด, ตรวจ pleural effusion ให้ได้, ตรวจม้ามโตให้ได้, ฟัง murmur ให้ได้ ( murmur ที่ฟังไม่ออก + AF ให้เดาว่า MS ไว้ก่อน)) การอ่านหนังสือ ทีละโรคไม่มีประโยชน์
2. จัดซ้อม สอบกันเอง หรือให้ อาจารย์ช่วยคุม ควรจัดเป็นกลุ่มย่อยๆ จะได้ผลมากกว่า
3. ติดต่อ Fellow ให้ช่วย อีกแรง ( fellow มีประโยชน์มาก เพราะเขาจะรู้ว่า หน่วยเขา มี case อะไรอยู่ในตึกบ้าง)
4. ถ้าไม่มี case ในตึกให้ สมมุติ case ขึ้นมาได้ (เคยสมมุติ ถูกไป case หนึ่ง( Amyloid with cardiomyopathy))
5. สิ่งที่ทุกคนหนักใจที่สุดคือ neuro ต้องหัดตรวจแบบเร็วให้ได้ (เขาจะไม่เอา pure neuro มาออก ยกเว้นที่ จ๋าๆเช่น MS)
6. สถานที่สอบ ห้ามไปเดิน ด้อมๆมองๆ ที่ตึกผู้ป่วยเด็ดขาด แค่รู้ว่าต้องไปรอที่ไหนก็พอ แต่ควรมองหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละที่เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย
การเตรียมตัวสอบ short case
ให้ผู้เข้าสอบตรวจร่างกายเฉพาะระบบ โดยแบ่งเป็น 3 stations ใช้เวลา station ละ 8 นาที รวม 24 นาที
1. ท่อง check list ได้ให้หมดก็พอ (ออกเดิมๆ)
2. พยายามหา sign ที่คนก่อนทิ้งไว้ ถ้าเขากรุณา (AS ก็จะมีรอยวัดโน่นนี่ )
3. การรู้ว่า อาจารย์ สอนหน่วยอะไร ก้จะทำให้ scope ง่ายขึ้น (สำหรับคนไม่รู้ก็ไม่เป็นไร)
4. พูดให้ได้มากที่สุด ไม่มีหักคะแนน (ถ้าไม่หมั่นไส้)
5. ออกแค่ 3 ข้อ แปบเดียวก็เสร็จแล้ว หนึ่งในนั้นจะมีตรวจ valvular heart disease 1 ข้อ
6. Station neuro ถ้ามีการ ตรวจ Gag ให้ถาม อาจารย์ ว่าจะให้ล้วงมั๊ย (ตัวเองล้วงแล้ว คนไข้อาเจียน ตรวจต่อไม่ได้เลย)
การเตรียมตัวสอบ OSCE
มี 6 stations ใช้เวลา station ละ 5 นาที รวม 30 นาที เรื่องที่ออกคือ แปลผลภาพรังสีจริง อุลตราซาวน์ และ CT scan การอ่านและแปลผล blood smear bone marrow smear Gram's stain slide
fresh specimens จากกล้องจุลทรรศน์ รวมทั้งข้อสอบด้านบูรณาการ เช่น การลงรหัสโรค รหัสหัตถการ บัญชียาหลัก และความรู้ทางด้านกฎระเบียบอื่นๆ 
1. ICD -10 เปลี่ยนเป็นสรุป discharge summary แล้ว เดิมให้เปิด code ซึ่งมักไม่ทัน แนะนำให้ฝึกบ่อยๆ
2. slide CBC ออกทุกปี
3. ต้องแยก Crypto, histo, penicilium ให้ออก
4. film chest film ข้อ
5. ไม่ต้องลน ทุกคนทำได้ พอๆกัน

ปรับปรุงจาก http://sangkha-medicine.blogspot.com
คู่มือแนะนำวิธีการสอบสำหรับผู้เข้าสอบในการสอบปฏิบัติกลางปี เพื่อหนังสืออนุมัติและวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาอายุรศาสตร์ ประจำปี 2554

1 ความคิดเห็น:

  1. อันนี้เป็นข้อมูล case ที่เคยออกกลางปีที่ผ่านมา จากวพม.
    1. short case
    cardio : ASD
    advice thalassemia
    ตรวจ multple CN หา lesion
    2. lab
    AML -M3 ?5
    AIHA
    pus - mixed organism
    film joint - HOA
    CXR - pulmonary aspergillosis + old Tbc
    ICD 10 เขียนสรุป discharge summary
    3. long case
    case แรก ทหารหนุ่ม 20 ปี prolonged fever 2 เดือน มี weight loss anemia mild hepatosplenomegaly สรุปเป็น leishmaniasis
    case สอง ทหารวัยเกษียณ หอบเหนื่อยเรื้อรัง มีตับโต ขาบวม มี TR murmur สรุปเป็น right sided heart failure จาก ? ARVD

    ตอบลบ